ดูแลคนที่เรารักตั้งแต่ตอนที่เขายังเดินได้ ดีกว่าไหม

เป็นความห่วงใย ที่ผมอยากจะบอกให้เพื่อนๆรู้ว่า หากการดูแลคนที่เรารัก หากการที่เราจะสามารถช่วยเพิ่มความสบายเวลาเดิน อย่ารอจนเข่าเสื่อมมากๆแล้วค่อยมาดูแล มันอาจจะสายเกินไป อ่านบทความดีๆเรื่องการดูแลสุขภาพข้อเข่าจากที่นี่ การดูแลอาการข้อเข่าเสื่อม

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รวมเมนูเด็ดอาหารยอดนิยมจากซีรีส์เกาหลี

เนื้อหาและรูปจากhttp://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=44061
자장면 ชาจังมยอน
(บะหมี่ดำ)
ชาจังมยอนจะเป็นอะไรที่เห็นได้ง่ายมากในละครและหนังเกาหลี อย่างเช่นเรื่อง กุงเอส ที่เซเว่นเป็นเด็กส่งชาจังมยอน แถมฉากแรกยังมีโชว์การทำชาจังมยอนให้ดูอีก ชาจังมยอนเป็นอาหารเกาหลีที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีนจึงไม่แปลกว่าทำไมร้านที่เฮียเว่น
ทำอยู่ มันถึงอยู่ในไชน่าทาวน์เกาหลี h7.gif
user posted image

ส่วนประกอบจ้า~
1.เส้น - จะใช้เส้นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็น โซบะ อุด้ง แนงมยอน แล้วแต่ความชอบจ้า
2.짜장 (Black bean paste) - เป็นอะไรที่ราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียวและหาค่อนข้างยาก ถ้าแปลตามตรงมันคือ "ซอสถั่วดำ" (แปลจากภาษาอังกฤษอ่าค่ะ) บางครั้งเวลาเราไม่มีเงินซื้อก็จะใช้ซีอิ๊วดำแทนอ่ะค่ะ --*--
3. หัวหอม - มันก็คือหัวหอมธรรมดา จานละ 20
4.แตงกวา ซุคคินี่ (zucchin) - แตงกวาที่ผิวนอกจะมีเหมือนขนเล็กๆคอยทิ่มมือเรา ลักษณะคล้ายแตงร้าน หรือแตงกวาอันยาวๆ
5.เนื้อสัตว์ - หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จะใช้อะไรก็ได้แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
6.ซอสถั่วเหลือง (ชุนจัง) - (--*-- ) จะให้อธิบายไงดีล่ะเนี่ยยย

***รูปร่างหน้าตาของกระปุก "ชาจัง" หรือซอสถั่วดำจ้า~
user posted image

วิธีทำ... emotion_087.gif
1.หั่นเนื้อสัตว์ตัวดีของเราเป็นชิ้นเล็กๆๆๆ หั่นหัวหอมกับแตงกวาซุคคินี่เป็นชิ้นเล็กๆหรือเป็นเส้นเล็กๆ แล้วแต่ตามใจอิฉันเลยจร้า
2.นำเนื้อสัตว์ลงไปผัดใส่น้ำตามเล็กน้อยพอไม่ให้ติดกะทะ ใส่หัวหอม แตงซุคคินี่ และพระเอกของเรา!! ซอสชาจัง (หรือซีอิ๊วดำยามคลาดแคลนทุน)
3.ผัดมันให้เละ ผัดมันให้เข้ากัน ปรุงรสตามใจชอบบบบ (อย่าตกใจถ้ามันเป็นสีดำ)
4.ลวกเส้นให้พอสุกประมาณ 3-5 นาที (ความนานแล้วแต่ขนาดของเส้นด้วยค่ะ) นำเส้นไปจุ่มลงในน้ำเย็นจัดๆ เทใส่จานแล้วราดน้ำซอสที่เราเพิ่งผัดเสร็จเดือดปุดๆๆๆลงไป เป็นอันว่าเสร็จพร้อมโซ้ยเจ้าค่ะ (เทซอสลงจานนะคะไม่ใช่เทใส่ปาก อย่าใจร้อนนนน g6.gif )

***คำแนะนำเละๆน้อยๆ --- เวลากินปากจะเลอะง่ายมากๆ เพราะฉะนั้นควรทานคนเดียวอยู่ที่ไหนก็ได้ไม่ให้คนเห็น ไม่งั้นเค้าจะนึกว่าเราเป็นผีปอบ โดนเฉพาะถ้าเป็นตอนกลางคืน เหอเหอเหอ emotion_087.gif


떡복이 ต๊อกโพกี
อันนี้จะได้เห็นในเรื่อง กุง ภาคแรกที่ชินแชยองชอบหนีออกไปกินที่หน้าโรงเรียนกับเพื่อนบ่อยๆ แถมยังให้ชายยุลกินด้วย >_< อิจฉาจังอ่า~
user posted image

ส่วนประกอบจ้า~

1.แป้งต๊อก - แป้งข้าวต่างๆที่นำมานวดแล้วปั้นให้เป็นแท่งหรือก้อน แล้วแต่อาหารที่จะทำค่ะ แต่ถ้าสำหรับอันนี้เราใช้แป้งที่ลักษณะเป็นแท่ง (ถ้าของญี่ปุ่นเรียกว่า โมจิ คงรู้ชัดแล้วนะว่ามันคืออะไร h7.gif )
2.เรด ฮอลิค ซอส (Red Holic sauce) - จะเป็นซอสลักษณะสีออกส้มๆแดงๆ มีทั้งหมด 3 ชนิดค่ะ คือ
- อับกุชอง (ซองสีแดง)
- ชินจง (ซองสีส้ม)
- อันนี้เป็นซองสีเขียว ซอสจะออกสีแดงเข้ม (ขอโทษนะคะ จำชื่อไม่ได้)
user posted imageuser posted image
3.หัวหอม - หัวหอมอาจจะใช้อันที่เหลือจากชาจังมยอนก็ได้นะ
4.น้ำ - เจอกันอีกแล้ววว

วิธีทำจ้า~
1.หั่นหัวหอมให้เป็นเส้นๆได้ขนาดแล้วแต่ หรืออาจจะใช้ที่เหลือจากชาจังมยอนก็ได้ อิอิ
2.น้ำแป้งต๊อกมาใส่ลงกระทะไฟปานกลาง เติมน้ำใส่ ใส่ซอส แล้วก็ผัดดดดดดดดด
3.ใส่หัวหอมลงไปหรืออาจจะเติม วุ้นเส้น หรือไม่ก็ปรุงรสก็ได้แล้วแต่ชอบอ่ะนะ แล้วก็ผัดมันเข้าไปจนกว่าแป้งจะสุก (ไม่สุกก็ได้แต่ต้องกินให้หมดนะ 555+)
4.จัดใส่จานเสริฟ หรือใส่กับเส้นหมี่ทานซะ (ถ้าใส่วุ้นเส้นลงไปก็ไม่ต้องใส่เส้นหมี่ก็ได้)

รวมรูปขั้นตอนการทำจ้า~
user posted image
user posted image
user posted image
ตอนมันเดือดปุดๆนี่สิ โอ้ววววว~ เห็นแล้วน้ำลายจะไหลลล emotion_102.gif (เช็ดก่อนๆ)
user posted image

เมนูที่ 3 มาแล้วจ้า~
김지 กิมฉิ (จะเรียกว่ากิมจิก็ได้อ่าจ้ะ)
กิมจินี่คงจะเป็นอะไรที่ดังไปทั่วโลกแล้วล่ะมั้ง ใครไม่รู้จักกิมจิละก็เดินเข้าไปตบกะโหลกได้เลย (ก็คนๆนั้นคงจะบ้านนอกเอามากๆเลย)
user posted image

ส่วนประกอบจ้า~
1.ผักกาดขาวปลี/ผักหางหงส์ - เอามาหั่นหยาบๆสัก 1 ต้นใหญ่ก็พอมั้ง (ถ้าอยากทำมากกว่านี้ก็ใช้มากๆ)
2.หัวไชเท้า - แล้วแต่จะใช้จ้า แต่ขอแนะนำอันนี้ว่าใช้ 1 หัว (มั้ง)
3.แครอท - เค้ามาเป็นเพื่อนหัวใช้เท้า เอ๊ย! หัวไชเท้า
4.เกลือหยาบ - เกลือทะเลอ่ะแหละค่ะ ใช้สักประมาณ 6 ชต.(กะเอาเองนะคะ)
5.น้ำตาลทราย - ก็น้ำตาลทรายธรรมด๊า ธรรมดาประมาณสัก 2 ชต.
6.พริกชี้ฟ้าแดง - ผ่าครึ่งเมล็ดออกสักประมาณ 5 เม็ด ถ้าหากชอบเผ็ดมั่กๆจะใช้พริกขี้หนูแดงก็ได้จ้า
7.ซอสพริกอย่างเผ็ด -มันก็คือซอสผริกธรรมดาน่ะแหละค่ะจะใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ได้แล้วแต่ชอบค่ะ
8.ขิงแก่สับ - ขิงสับเป็นเส้นๆๆๆๆประมาณ 1 ชต.
9.กระเทียมสับ - สับเป็นชิ้นๆๆๆๆ 5 กลีบใหญ่
10.ต้นหอม - หั่นเป็นท่อนๆ 5 ต้น หรือมากกว่าก้ได้ค่ะแล้วแต่ตามใจอิฉัน
11.น้ำ - เจออันอีกแล้ววว --*--
12.มะนาว -ประมาณ 1-2 ผลก็พอเดี๋ยวเปรี้ยวไปค่ะ

วิธีทำมาแล้วจ้า~
1.นำผักกาดขาวล้างให้สะอาดผ่าครึ่งหั่นตามแนวยาว ใส่ตะกร้าผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
ขยำผักกาดเกลือป่น(ใช้เกลือป่นหมักผักประมาณ 3 ชต.) ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที(นานไปไม่ดีนะคะ) แล้วล้างผักด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง บีบน้ำออก แล้วนำผักยัด... เอ๊ย ใส่ลงในชามหรือภาชนะที่สะอาดสำหรับใช้ดองกิมจิค่ะ
2.นำแครอท หัวไชเท้า ล้างให้สะอาดปอกเปลือกหั่นตามขวางจนหมด (เรียกว่าแก้ผ้านั่นเอง) แล้วหั่นทั้งสองอย่างให้เป็นเส้น(หรือว่าจะใช้ขูดเอาก็ได้ค่ะ)
3.นำเครื่องปรุงไปปั่นให้ละเอียด (พวกพริก ขิง อ่ะค่ะ รวมเกลือที่เหลือ 3 ชต. )(6 ชต.ใช้หมักผักไป 3 ชต.)
4.นำเครื่องปรุงทั้งหมดเทลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาลทรายคนให้ทั่ว นำผักกาด หัวไชเท้า แครอท และต้นหอม ลงคลุกเคล้า แล้วนำใส่ขวดโหลหรือภาชนะที่เลือกไว้ค่ะ ปิดฝาพักไว้นำไปใส่ตู้เย็นประมาณ 24 ชม. หรืออาจจะนานกว่านั้นก็ได้ (ที่ต้องใส่ตู้เย็นเพราะว่าบ้านเราอากาศไม่เย็นเหมือนที่เกาหลีอ่ะค่ะ)

*เมื่อครบ 24 ชม แล้วลองชิมดูว่าอ่อนเปรี้ยว อ่อนเค็มไปรึเปล่า อาจจะปรุงด้วยน้ำมะนาวและเกลือป่นสูตรนี้เก็บไว้ในตู้เย็นรับประทานได้ถึง 1 เดือน o_O

เมนนูประยุกต์ของกิมจิ กิมจิจิเกะ (แกงกิมจิ)
กิมจินี่ทำได้หลายอย่างเลย... แต่อันนี้เป็นแกงกิมจิรสชาติคล้ายแกงส้มบ้านเราน่ะแหละค่ะ แต่รสชาติอาจจะไม่จัดเท่า h7.gif
user posted image

ส่วนประกอบจ้า~
1.หมูสามชั้น - หมูสามชั้นธรรมดาน่ะแหละค่ะ หั่นเป็นแผ่นบางๆ (เรียกง่ายๆว่าสไลด์ h7.gif )
2.กิมจิ - พอทำเสร็จก็เอามาใช้เลยละกัน อิอิ h7.gif
3.น้ำตาลทราย - เอาอันที่เหลือจากทำกิมจิมาใช้ก็ได้
4.ขิงสับ - เอาขิงที่เหลือจากทำกิมจิมาใช้ต่อก็ได้จ้าแต่สับด้วยเน้ออ (จะสับให้มันเละกว่านั้นก็ได้เพราะอิฉันไม่ได้กินด้วยย)
5.น้ำ - เจอกานได้ทุกงานเลยยยย

วิธีทำมาแว้ววว
1.หั่นกิมจิให้เป็นชิ้นเล็กหน่อย (เล็กไปก็ไม่ดี แต่ไม่หั่นมันก็จะใหญ่คับหม้อเลยค่ะ) บีบน้ำออกจากกิมจิสักหน่อย ไม่งั้นเปรี้ยวจี๊ดกินใจ... แต่ให้เหลือน้ำในตัวกิมจิบ้างก็ดีนะเคอะ พอกินแล้วจะได้รู้ว่าเป็นแกงกิมจิไม่ใช่แกงผักดอง
2.ใส่น้ำตาลทรายประมาณครึ่ง ชต. ใสขิงสับลงไปด้วยเพื่อความสะจายยย (พอใส่ขิงแล้วมันจะหอมหวนมากกก ยิ่งใส่ยิ่งหอมแต่ใส่มากไปมันจะกลายเป็นซุปขิงนะคะ)
3.เติมน้ำลงไปให้ปริ่มๆกิมจิ ปิดฝา ตั้งไฟปานกลาง ปล่อยให้มันค่อยๆเคี่ยวไปค่ะ (จะใช้ทัพพีช่วยแจมก็ไม่ว่ากัน emotion_087.gif )
4.พอมันเดือดปุดๆๆๆ ก็เปิดฝาคนสักหน่อยไม่ให้มันติดก้นหมอ ลองชิมดูค่ะว่าถูกใจอ๊ะป่าวแล้วค่อยเติมลงไป ปิดฝาต่อเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆสักพักก็โอเชแย้วว
5.ลองเปิดกระโปรง เอ๊ย! เปิดฝาเช็คดูว่าหมูสุกรึยางง รสชาติแซ่บมั้ย ถ้าหากว่าพอใจแล้วก็เทใส่ชามเสริฟ ทานพร้อมกับขาวสวยร้อนๆ เปิดหนังเรื่องแดจังกึมประกอบไปด้วย แต่งชุดฮันบกเพิ่มบรรยากาศเข้าไปอีก รับรองค่ะว่าจะมีแต่คนพูดว่า "ไอ้นี่ท่าจะบ้า" อิอิ emotion_087.gif

ข้าวผัดกิมจิ
กิมจิอีกแล้วววววว อันนี้ง่ายมั่กๆเลยแภมยังเป็นเมนูอาหารจานเดียวด้วยยยย (อิ่มแหงๆ)
user posted image
*รูปไปเอาของชาวบ้านเค้ามาค่ะ

ส่วนประกอบจ้า~
1.ข้าว - ข้าวสวยธรรมด๊า ธรรมดา หุงสุกๆไม่แฉะนะจ๊า
2.กิมจิ - เอาที่เพิ่งดองเสร็จมาเลยยย แต่ต้องรีดน้ำออกให้เหลือน้อยที่สุดค่ะ อาจจะสับให้ชิ้นเล็กลงก็ได้ค่ะถ้าชอบ
3.งาขาว - งาที่มีเป็นสีขาว -- --
4.เนื้อสัตว์ - จะใช้เนื้อตัวอะไรก็ได้ค่ะ แต่ห้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆด้วยจะยิ่งดีค่ะ
5.ไข่ - ไข่ธรรมดา ธรรมดา (จะใช้ไข่เป็ดก็ได้แล้วแต่)
6.กระเทียบ - สับละเอียดได้เท่าไหร่ยิ่งดี แต่อย่าเอาไปปั่นนะคะมันจะละเอียดเกินไป
7.น้ำมันพืช - ทำของผัดแล้วขาดสิ่งนี้ได้ไงอ่ะ

วิธีทำจ้า~
1.ตั้งกะทะไปปานกลาง โยนกระเทียมลงกะทะ (ใส่นั่นแหละค่ะโยนไม่ดีเดี๋ยวน้ำมันกระเด็น ><)
2.ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดสักแป๊บนึง ตามด้วยกิมจิ แล้วก็ผัดมันเข้าไป
3.โปะข้าวตาม ปรุงรสนิดหน่อยแล้วผัดไปเติมน้ำกิมจิไป โรยงาขาวนิดหน่อยเป็นอันเรียบร้อยค่ะ (ต้องผัดเนื้อสัตว์ให้สุกด้วยนะคะ ไม่งั้นพยาธิกินแหงๆ)
4.ตักข่าวใส่จาน ทอดไข่ดาวโปะหน้าเป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมโซ้ยทันทีเจ้าค่ะ

***จะเอากิมจิมาทานเป็นกับแกล้มก็ได้อร่อยดีเหมือนกันค่ะ h7.gif

หมูผัดกิมจิ
ชีวิตนี้ชั้นยังหนีไม่พ้นกิมจิอยู่ดี --*--
user posted image
*นี่คือรูปของหมูผัดกิมจิที่แสนจะยั่วยวนน้ำย่อย (แบบโปะข้าวแล้วนะคะ)

ส่วนประกอบจ้า~
1.หมูสามชั้น - สไลด์เป็นแผ่นบางๆความยาวก็แล้วแต่ชอบจ้า
2.งาขาว - งาที่มีสีขาว (จะพูดให้ได้อะไรเนี่ย --*--)
3.กิมจิ - หนีไม่พ้นอีกอยู่ดี
4.กระเทียม - สับมันให้ละเอียดเละๆสะใจไปเลยค่ะ
5.น้ำมันพืช - บ้านใครรวยจะใช้น้ำมันมะกอกก็ได้ค่ะ หอมดี
6.น้ำมันงา - เอาไว้ปรุงรสปรุงกลิ่น ผู้ใดขาดทุนทรัพย์ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ค่ะ

วิธีทำจ้า~
1.รีดน้ำออกจากกิมจิให้เรียบร้อยซะก่อนนน แล้วเอากะทะตั้งไฟปานกลาง
2.เทน้ำมันลงไป พอเริ่มร้อนก็โยนกระเทียมลงไปได้เลยจ้า (แว้กกกก! น้ำมันกระเด็นมาหมดแล้วว i1.gif )
3.เทหมูลงไปผัดบนกะทะสักแป๊บระวังไม่ให้ติดกะทะ แล้วค่อยเทกิมจิตาม ผัดสักแป๊บให้หมูเริ่มสุกแล้วค่อยเทน้ำกิมจิตามค่ะ (น้ำกิมจิแล้วแต่จะใส่ค่ะ h7.gif )
4.เทน้ำมันงา กับงาขาวลงไปคลุกด้วยกันบนกะทะ หรี่ไฟอ่อนๆไม่งั้นงาไหม้หมด (ถ้าเป็นไฟแรงแล้วเทงาลงไปเยอะ กะทะจะกลายเป็นดิสโกเทคสำหรับงาทันทีค่ะ เพราะมันจะดิ้นกันไม่หยุด)
5.เสร็จเรียบร้อยเทใส่จานเตรียมโซ้ยกับข้าว พร้อมกับต๊อกโพกี (อร่อยๆ ง่ำๆๆ emotion_006.gif )

เมนูนี้เป็นเมนูประยุกต์ก็ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่ออะไรดีอ่ะค่ะ --*-- (เพราะคิดขึ้นมาเอง)
***เป็นอะไรที่ง่ายยยยยยยยยยมากๆค่ะ มีอะไรในตู้เย็นก็จับมาโยนใส่กระทะให้หมดก็ทานได้แล้วค่ะ i4.gif

ส่วนประกอบจ้า~
1.น้ำพริกโคชุนจัง - ซอสสีแดงๆที่ใช้ทำต๊อกโพกี่อ่ะแหละค่ะ เพิ่งจะรู้ชื่อที่แท้จริงของมันก็ตอนที่ทำอันนี้แหละค่ะ (ใช้แบบซองของฟรีมาซะตั้งนาน h0.gif )
2.เส้นโซมยอน - จะใช้เส้นอื่นๆก็ได้ค่ะแต่ว่าสำหรับอิฉันแล้วชอบเส้นโซมยอนที่สุดค่ะ เพราะหอมมม นู่มมม อร่อยถูกจายที่ฉุดแย้วววว emotion_111.gif
3.เนื้อสัตว์ต่างๆ - เป็นอะไรก็ได้หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำเข้าไว้แล้วจะดีค่ะ หรือจะใส่พวกลูกชิ้นลงไปก็ได้อร่อยดีเหมือนกัน
4.ผักต่างๆ - ผักอะไรก็ได้ใส่ลงไปเถอะค่ะ (ขอให้ชอบก็พอแล้ว)

วิธีทำจ้า~
1.ลวกเส้นในน้ำเดือดประมาณ 4-5 นาทีเสร็จแล้วก็น้ำมาล้างหรือแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อเส้นจะได้เหนียวนุ่ม ไม่เละค่ะ
2.นำกะทะตั้งไฟใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย น้ำเนื้อสัตว์ลงไปผัดกับผักสักแป๊บนึงให้พอสุก เสร็จแล้วก็เติมน้ำลงไปแล้วแต่จะพอใจอ่ะค่ะ
3.ใช้ช้อนควักน้ำพริกขึ้นมาสักช้อนใส่ลงไป หรือถ้าชอบเผ็ดก็ไปสักหลายๆช้อนเลยเจ้าค่ะสะใจดี (แค่ช้อนเดียวเราก็ว่าเริ่มเผ็ดแล้วนะ g8.gif )
4.ใส่เส้นลงไปผัด (น่าจะเรียกว่าลงไปคลุกมากกว่า) หรือจะตักน้ำราดเส้นก็แล้วแต่ชอบค่ะ เท่านี้ก็เสร็จพร้อมโซ้ยแล้ว... โปะกิมจิลงไปสักก้อนกินด้วยกันง่ำๆๆๆ มัซซิสซอโย!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิกข้อมูลเชิงลึกด้วย email

Enter your email address:

Delivered by FeedBurner